โบท็อกช่วยอะไร รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีดครั้งแรก
โบท็อกเป็นหนึ่งในวิธีช่วยต้านความชราบนผิวหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยและคุณภาพที่ผ่านการพิสูจน์มาอย่างยาวนาน แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้โบท็อก อาจมีคำถามว่า โบท็อกช่วยอะไรบ้าง IDL Hospital ขอพาทุกคนไปไขข้อสงสัยดังกล่าว พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดครั้งแรก เพื่อให้คุณมั่นใจและพร้อมสำหรับการเริ่มต้นดูแลผิวด้วยโบท็อก ติดตามได้ในบทความนี้
หัวข้อที่น่าสนใจ
โบท็อก (BOTOX) คืออะไร
โบท็อก (BOTOX) คือ สารสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ผ่านการทำให้บริสุทธิ์และคุณภาพสำหรับการใช้ทางการแพทย์ เมื่อฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อ โบท็อกจะทำหน้าที่ยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดการเคลื่อนไหว ส่งผลให้ริ้วรอยและรอยย่นบนใบหน้าลดลง ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
โบท็อกช่วยอะไรบ้าง
โบท็อก (Botox) เป็นหัตถการยอดนิยมที่หลายคนนึกถึงเมื่อต้องการจัดการปัญหาริ้วรอยแห่งวัย แต่ทราบหรือไม่ว่าโบท็อกนั้นมีประโยชน์มากกว่าแค่การลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า? ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการคลายกล้ามเนื้อ โบท็อกจึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อความงามและการรักษาได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าโบท็อกช่วยอะไรได้บ้าง
- ลดเลือนริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์: ปัญหาหลักที่โบท็อกแก้ไขได้อย่างตรงจุดคือริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อใบหน้าซ้ำๆ เช่น รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้ว หรือรอยพับบนหน้าผาก โบท็อกจะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ใบหน้าจึงดูอ่อนเยาว์สดใส
- ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย (ลดกราม): สำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ ทำให้ใบหน้าดูกว้าง การฉีดโบท็อกบริเวณกรามจะช่วยให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้กรอบหน้าดูเรียวและได้สัดส่วนมากขึ้น เป็นวิธีปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ยกกระชับใบหน้าและลำคอ (ลิฟต์กรอบหน้า): เทคนิคการฉีดโบท็อกเพื่อยกกระชับ หรือ “ลิฟต์กรอบหน้า” ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าและลำคอ ทำให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้น แลดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม
- ลดเหงื่อบริเวณต่างๆ: โบท็อกสามารถยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อได้ จึงนิยมใช้รักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ช่วยลดปัญหาเหงื่อและกลิ่นกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดขนาดกล้ามเนื้อน่องหรือต้นแขน: คล้ายกับการลดกราม โบท็อกสามารถฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณน่องหรือต้นแขนที่ดูใหญ่ ทำให้แขนขาดูเรียวเล็กลง เพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว
- รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน: ในทางการแพทย์ โบท็อกได้รับการรับรองให้ใช้รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรังได้ โดยการฉีดในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวด
โบท็อก มีวิธีทำงานอย่างไร
โบท็อกออกฤทธิ์โดยการเข้าไปจับกับปลายเส้นประสาทที่สั่งการให้กล้ามเนื้อหดตัว. สาร Botulinum Toxin Type A จะไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท (Acetylcholine) ที่ปลายประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดไม่สามารถรับสัญญาณสั่งการให้หดตัวได้ กล้ามเนื้อจึงคลายตัวลงชั่วคราว ส่งผลให้ริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อนั้นลดเลือนลง
คุณสมบัติของโบท็อกกับผิวของเรา
- มีคุณภาพและได้รับการรับรอง โบท็อกผ่านการรับรองจาก FDA และใช้ในทางการแพทย์มานานกว่า 20 ปี มีคุณภาพสูง
- ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เมื่อฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญ โบท็อกจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าแข็งหรือแสดงอารมณ์ไม่ได้
- การฟื้นตัวที่รวดเร็ว หลังการฉีดโบท็อก ผู้รับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน
- ผลลัพธ์ที่ปรับเปลี่ยนได้ ผลของโบท็อกไม่ถาวร ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนการรักษาได้ตามความต้องการในอนาคต
- ป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ นอกจากลดริ้วรอยที่มีอยู่ โบท็อกยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ได้อีกด้วย
โบท็อกฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
หลังจากที่เราทราบกันแล้วว่าโบท็อกช่วยอะไรได้บ้าง มาดูกันว่าสามารถฉีดได้บริเวณไหนบ้าง โบท็อกสามารถใช้ได้กับหลายส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและลำคอ ซึ่งแต่ละตำแหน่งจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป บริเวณที่นิยมฉีดโบท็อก ได้แก่
- หน้าผาก ลดรอยย่นตามแนวขวาง
- ระหว่างคิ้ว ลดรอยย่นตามแนวตั้ง (รอยตีนกา)
- หางตา ลดรอยตีนกา
- ขมับ ช่วยยกคิ้วและทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น
- ปลายจมูก ยกปลายจมูกและลดการบานของปีกจมูกเวลายิ้ม
- กราม ลดขนาดกรามและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- คอ ลดรอยย่นบริเวณลำคอ
- รอบปาก ลดรอยย่นรอบริมฝีปาก
- รักแร ลดเหงื่อที่ออกบริเวณใต้วงแขน
การฉีดโบท็อกเหมาะกับใคร
การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความงาม หรือรักษาอาการบางอย่างโดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างรวดเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ.
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หรือหางตา (รอยตีนกา)
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม.
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า ลำคอ หรือยกคิ้วให้ดวงตาดูสดใสขึ้น.
- ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า.
- ผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง หรือกล้ามเนื้อต้นแขน.
- ผู้ที่ต้องการป้องกันการเกิดริ้วรอยลึกในอนาคต.
ใครที่ควรเลี่ยงการฉีดโบท็อก
แม้ว่าโบท็อกจะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีข้อควรระวังและบุคคลบางกลุ่มที่ไม่แนะนำให้ฉีด เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Botulinum Toxin Type A หรือส่วนประกอบอื่นๆ ในตัวยา
- สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis), ALS
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการกลืนลำบาก
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการหายใจขั้นรุนแรง เช่น หอบหืด หรือถุงลมโป่งพองที่ควบคุมอาการไม่ได้.
- ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังในบริเวณที่จะทำการฉีด
- ผู้ที่กำลังรับประทานยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
ขั้นตอนการฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นานและมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด.
- ปรึกษาและประเมิน: แพทย์จะพูดคุยถึงปัญหาและความต้องการ ประเมินสภาพผิวและกล้ามเนื้อบริเวณที่จะฉีด พร้อมทั้งอธิบายแผนการรักษาและปริมาณยาที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดผิว: ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดให้ปราศจากเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก
- ประคบเย็นหรือทายาชา: อาจมีการประคบเย็นหรือทายาชา (หากจำเป็น) บริเวณที่จะฉีด เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
- ดำเนินการฉีด: แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กมาก ฉีดโบท็อกเข้าไปยังตำแหน่งกล้ามเนื้อที่ต้องการรักษาอย่างแม่นยำตามแผนที่วางไว้
- หลังฉีด: อาจมีรอยแดงหรือตุ่มนูนเล็กน้อยจากเข็ม ซึ่งจะหายไปเองใน 1-3 ชั่วโมง. แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีด
ที่ IDL Hospital มีโบท็อกยี่ห้อใดบ้าง
ที่ IDL Hospital เราใส่ใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก เราเลือกใช้เฉพาะแบรนด์โบท็อกที่มีคุณภาพสูง เป็นของแท้ และผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อความไม่เป็นอันตรายและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของเรา โดยแบรนด์ที่เรานำมาให้บริการ ได้แก่
โปรแกรมโบท็อก Aestox
Aestox เป็นโบท็อกคุณภาพสูงจากประเทศเกาหลีใต้ ผลิตโดยบริษัท Medytox ซึ่งเป็นผู้นำด้านเวชภัณฑ์ความงาม โดดเด่นด้วยความบริสุทธิ์สูงและประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย มีความเสถียรสูง ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน เหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอยบนใบหน้าและการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
- จุดเด่น: มีความบริสุทธิ์สูง, เห็นผลเร็ว, ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ, ราคาเข้าถึงง่าย
- จุดด้อย: ระยะเวลาอยู่ได้อาจสั้นกว่าบางยี่ห้อเล็กน้อย
- ความแตกต่าง: พัฒนาให้คล้าย Allergan แต่ราคาดีกว่า, เน้นความอ่อนโยนเป็นธรรมชาติ
โปรแกรมโบท็อก XEOMIN
XEOMIN เป็นโบท็อกจากประเทศเยอรมนี ผลิตโดยบริษัท Merz Pharmaceuticals ที่มีประสบการณ์ยาวนานในวงการเวชสำอาง จุดเด่นของ XEOMIN คือเป็นโบท็อกบริสุทธิ์ ไม่มีโปรตีนเกิน ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดภูมิต้านทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้โบท็อกเป็นประจำหรือมีความกังวลเรื่องการแพ้
- จุดเด่น: บริสุทธิ์สูง ลดความเสี่ยงดื้อยา, โมเลกุลเล็ก กระจายตัวดี, เหมาะกับเคสดื้อยา หรือฉีดต่อเนื่อง
- จุดด้อย: ราคาสูงกว่าโบท็อกเกาหลีบางยี่ห้อ
- ความแตกต่าง: ปราศจาก Complexing Proteins, โบเจนใหม่จากเยอรมัน
โปรแกรมโบท็อก NABOTA
NABOTA เป็นโบท็อกอีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพจากประเทศเกาหลีใต้ ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้ได้โบท็อกที่มีประสิทธิภาพสูง NABOTA โดดเด่นด้วยการออกฤทธิ์ที่รวดเร็วและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า
- จุดเด่น: บริสุทธิ์สูง, ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว, ได้รับการรับรองจาก US FDA, ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
- จุดด้อย: ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำ
- ความแตกต่าง: เป็นแบรนด์เกาหลีที่ผ่าน US FDA, เน้นเห็นผลเร็ว
วิธีสังเกตโบท็อกแท้ ดูอย่างไร
การเลือกใช้โบท็อกแท้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา ปัจจุบันมีโบท็อกปลอมหรือโบท็อกหิ้วที่ไม่ได้มาตรฐานระบาดอยู่มาก การรู้วิธีสังเกตเบื้องต้นจะช่วยให้คุณมั่นใจได้มากขึ้น
- ตรวจสอบกล่องและซีล: กล่องต้องมีซีลปิดผนึกเรียบร้อย ไม่ฉีกขาดหรือมีร่องรอยการเปิดมาก่อน
- สติกเกอร์และ QR Code: มองหาสติกเกอร์โฮโลแกรมกันปลอม และอาจมี QR Code ให้สแกนตรวจสอบกับบริษัทผู้ผลิตหรือนำเข้าได้
- เลข Lot. ตรงกัน: เลข Lot. ที่ระบุข้างกล่องและบนขวดยาต้องเป็นเลขเดียวกัน
- เอกสารกำกับภาษาไทย: ต้องมีเอกสารกำกับยาเป็นภาษาไทย ระบุเลขทะเบียน อย. ชัดเจน
- ลักษณะตัวยา: โบท็อกแท้ก่อนผสมน้ำเกลือจะเป็นฟิล์มขาวๆ เคลือบอยู่ที่ก้นขวด ต้องไม่มีลักษณะเป็นผงแป้ง หรือมีน้ำอยู่แล้ว
การผสมยา: ควรให้แพทย์ผสมยาให้ดูต่อหน้า เพื่อความมั่นใจ
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกกับ IDL Hospital
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของคุณ
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิด ควรหยุดรับประทานยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน และอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี กระเทียม เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
- งดแอลกอฮอล์ ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและบวม
- ทำความสะอาดผิวหน้า มาทำการฉีดโบท็อกด้วยใบหน้าที่สะอาด ปราศจากเครื่องสำอาง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- แจ้งประวัติทางการแพทย์ ให้ข้อมูลแก่แพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว การแพ้ยา หรือการรักษาอื่น ๆ ที่กำลังได้รับอยู่ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ งดการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ที่กระตุ้นผิวอย่างรุนแรงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการรักษา
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้เพียงพอและดื่มน้ำมาก ๆ ในวันก่อนฉีด เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดสำหรับการรักษา
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกกับ IDL Hospital
- งดการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมงหลังการรักษา เพื่อป้องกันการกระจายตัวของโบท็อกไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
- นอนหงายและยกศีรษะสูง ในคืนแรกหลังการฉีด ควรนอนหงายและใช้หมอนยกศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อลดอาการบวมและช่วยให้โบท็อกกระจายตัวได้ดี
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก งดการออกกำลังกายที่หนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำหรือบวม
- ใช้ครีมกันแดด ทาครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังการฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคืองและรักษาผลลัพธ์
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและบวม
- ทำสีหน้าและขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ในช่วง 2-3 วันแรกหลังฉีด ให้ทำสีหน้าและขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อย ๆ เพื่อช่วยให้โบท็อกกระจายตัวได้ดีและเร่งการออกฤทธิ์
- สังเกตอาการผิดปกติ หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก เจ็บรุนแรง หรือมีไข้ ให้ติดต่อ IDL Hospital ทันที
ข้อดีของการฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์
การเลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์สูงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย เพราะไม่ใช่แค่การฉีดยา แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในกายวิภาคและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
- การประเมินที่แม่นยำ: แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินปัญหาและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างถูกต้อง ทำให้วางแผนการรักษาและเลือกปริมาณยาที่เหมาะสมที่สุด
- เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง: การฉีดที่ถูกตำแหน่งและถูกระดับความลึกของชั้นกล้ามเนื้อเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น หนังตาตก ปากเบี้ยว หรือหน้าแข็ง
- ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: แพทย์ที่มีประสบการณ์จะเข้าใจสัดส่วนที่สวยงามของใบหน้า สามารถออกแบบการฉีดเพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ หรือดูหลอกตา
- ความปลอดภัยสูงสุด: สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่ได้มาตรฐาน ลดความเสี่ยงจากการใช้ยาปลอมหรือยาที่ไม่ได้คุณภาพ
- ให้คำแนะนำที่เหมาะสม: สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีด รวมถึงแนะนำหัตถการอื่นๆ ที่อาจเหมาะสมร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ฉีดโบท็อกที่ IDL Hospital ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่
สำหรับผู้ที่สนใจฉีดโบท็อกที่ IDL Hospital เรามีบริการโบท็อกแบรนด์คุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด.
ยี่ห้อโบท็อก | บริเวณ/ปริมาณ | ราคาเริ่มต้น (บาท) |
Nabota | ริ้วรอย 1 จุด | XXXX |
Nabota | กรอบหน้า 50 U | XXXX |
Nabota | 100 U | XXXX |
Nabota | 200 U | XXXX |
Aestox | กราม ไม่จำกัด U | XXXX |
Aestox | กราม 50 U | XXXX |
Aestox | 100 U | XXXX |
สรุปโปรแกรมฉีดโบท็อกช่วยอะไรบ้าง กับผลลัพธ์ที่ IDL Hospital ให้คุณได้
โบท็อกช่วยอะไร คงรู้กันแล้วว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย ยกกระชับใบหน้า และปรับรูปหน้าให้สวยงามอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการทางการแพทย์บางอย่าง เช่น อาการเหงื่อออกมากเกินไปและอาการปวดศีรษะไมเกรน เมื่อคุณเลือกฉีดโบท็อกกับ IDL Hospital คุณสามารถวางใจได้ว่าจะได้รับการดูแลโดยแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยโบท็อกของแท้แบรนด์ดังที่ผ่านการรับรองจาก อย. ทุกขวด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความไม่เป็นอันตรายสูงสุด สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองคิวปรึกษาได้ที่ ไลน์ @IDLHOSPITAL หรือ โทร. 0994093666
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมโบท็อกช่วยอะไร
ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล
โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 24-72 ชั่วโมงหลังการฉีด แต่ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์จะเห็นได้ชัดเจนหลังจาก 7-14 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและบริเวณที่ฉีด บางคนอาจเห็นผลเร็วกว่าหรือช้ากว่านี้เล็กน้อย
ฉีดโบท็อกแต่ละครั้งอยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไป ผลของโบท็อกจะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณที่ฉีด บริเวณที่ฉีด และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นผลนานถึง 6-8 เดือน โดยเฉพาะหลังการฉีดซ้ำหลายครั้ง
ฉีดโบท็อกแต่ละครั้งใช้กี่ CC
ปริมาณโบท็อกที่ใช้ในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 20-50 ยูนิตต่อบริเวณ เช่น หน้าผากอาจใช้ 10-20 ยูนิต ส่วนรอยตีนกาอาจใช้ 8-12 ยูนิตต่อข้าง แพทย์จะเป็นผู้กำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล
ฉีดโบท็อกมีผลข้างเคียงหรือไม่
การฉีดโบท็อกอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น รอยช้ำ อาการบวม หรือรู้สึกเจ็บบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักหายไปภายใน 1-2 วัน ผลข้างเคียงร้ายแรงพบได้น้อยมากเมื่อดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนการรักษา
ฉีดโบท็อกหน้าเรียวจริงไหม ?
จริงค่ะ การฉีดโบท็อกบริเวณกรามสามารถช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อกราม (Masseter Muscle) ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของใบหน้าเหลี่ยมหรือกว้างได้ เมื่อกล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง กรอบหน้าจะดูเรียวและได้รูปมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จะชัดเจนในกรณีที่ปัญหามาจากกล้ามเนื้อเป็นหลัก หากปัญหามาจากโครงสร้างกระดูกหรือไขมัน อาจต้องพิจารณาหัตถการอื่นร่วมด้วย.
H3 ฉีดโบท็อกซ์ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
ได้ค่ะ โบท็อกสามารถทำร่วมกับหัตถการเสริมความงามอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัย เช่น การฉีดฟิลเลอร์, HIFU, Ulthera หรือการร้อยไหม เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาและให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น ลดริ้วรอยพร้อมเติมเต็มร่องลึก หรือยกกระชับพร้อมปรับรูปหน้า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม.
ฉีดโบท็อกต้องฉีดซ้ำไหม อยู่ได้นานเท่าไร ?
ผลลัพธ์ของโบท็อกไม่ได้อยู่ถาวรค่ะ โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณยา บริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล. เช่น โบท็อกลดริ้วรอยมักอยู่ได้ 3-4 เดือน ส่วนลดกรามอาจอยู่ได้ 5-6 เดือน. เมื่อโบท็อกหมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อจะค่อยๆ กลับมาทำงานตามปกติ จึงแนะนำให้ฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง.
3 จุดควรระวัง หากจะต้องการฉีดโบท็อก
- เลือกคลินิก/โรงพยาบาลและแพทย์: ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี. หลีกเลี่ยงการฉีดกับหมอกระเป๋า หรือในสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล.
- ตรวจสอบผลิตภัณฑ์: ต้องมั่นใจว่าโบท็อกที่ใช้เป็นของแท้ มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และผ่านการรับรองจาก อย. สังเกตลักษณะกล่อง ซีล เลข Lot. และควรให้แพทย์ผสมยาให้ดูต่อหน้า. การใช้ยาปลอมหรือยาหิ้วเสี่ยงต่อผลข้างเคียงและการดื้อยา.
- การเตรียมตัวและดูแลหลังฉีด: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งการงดยาหรืออาหารเสริมบางชนิดก่อนฉีด และข้อปฏิบัติต่างๆ หลังฉีด เช่น งดนอนราบ งดแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงความร้อน เพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้เต็มที่และอยู่ได้นานขึ้น.
ฉีดโบท็อกมาแล้วหน้าบวม เกิดจากอะไร
อาการบวมเล็กน้อยหลังฉีดโบท็อกถือเป็นเรื่องปกติค่ะ อาจเกิดจากรอยเข็ม หรือการตอบสนองของผิวต่อตัวยา ซึ่งมักจะบวมไม่มากและค่อยๆ ยุบหายไปเองภายใน 2-3 วัน หรือบางรายอาจมีรอยช้ำเล็กน้อยที่จะจางลงใน 1-2 สัปดาห์. แต่หากมีอาการบวมมากผิดปกติ ปวด หรือมีไข้ ควรติดต่อแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบติดเชื้อได้.
ฉีดโบท็อกแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร
โดยปกติแล้ว การฉีดโบท็อกไม่ควรทำให้เกิดเป็นก้อนแข็งถาวรเหมือนการฉีดฟิลเลอร์ หากรู้สึกเป็นก้อนเล็กๆ หลังฉีด อาจเป็นอาการบวมเฉพาะจุด หรือก้อนเลือดเล็กๆ (Hematoma) จากเส้นเลือดฝอย ซึ่งมักจะยุบหายไปเอง หากก้อนไม่หายไป หรือรู้สึกผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมิน อาจเกิดจากการฉีดผิดตำแหน่ง หรือเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง แต่พบได้น้อยมากกับโบท็อกแท้ที่ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ.
ฉีดโบท็อกแล้วดื้อโบเป็นเพราะอะไร
ภาวะดื้อโบท็อก เกิดจากร่างกายสร้างแอนติบอดีหรือภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านตัวยาโบท็อก ทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยลง และอยู่ได้สั้นกว่าเดิม. สาเหตุหลักๆ มักมาจากการใช้โบท็อกปลอม ไม่บริสุทธิ์ หรือไม่ได้มาตรฐาน, การฉีดในปริมาณที่มากเกินไปในแต่ละครั้ง หรือฉีดบ่อยเกินไป (ถี่กว่าทุก 3 เดือน) ทำให้กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
โบท็อกสลายเร็วเพราะอะไร
ปัจจัยที่ทำให้โบท็อกสลายตัวเร็วกว่าปกติ ได้แก่ การเผชิญความร้อนสูงเป็นประจำ (เช่น ซาวน่า สตรีม เลเซอร์ร้อน), การออกกำลังกายอย่างหนักและบ่อยครั้งซึ่งเพิ่มการไหลเวียนเลือด, การเผาผลาญของร่างกายแต่ละคนที่ต่างกัน, การได้รับปริมาณยาที่ไม่เพียงพอต่อขนาดกล้ามเนื้อ, หรือการดูแลตัวเองหลังฉีดที่ไม่เหมาะสม เช่น การนวดคลึงบริเวณที่ฉีดในช่วงแรกๆ หรือดื่มแอลกอฮอล์
เปิดให้บริการ 10.00-20.00 น. (เปิดทุกวัน)
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม