การดึงหน้าด้วย Endotine คืออะไร จบทุกปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย
ปัญหาหนังตาตก หน้าผากย่น เป็นความกังวลของใครหลายคนเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ส่งผลต่อความมั่นใจ IDL Hospital มีคำตอบด้วยเทคนิค Endotine นวัตกรรมล่าสุดที่ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติ มาทำความรู้จักกับเทคนิคนี้และค้นพบวิธีการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าของคุณ
Endotine คืออะไร
Endotine คืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการยกและกระชับผิวหน้า ทำจากวัสดุ Bio-absorbable ที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก คิ้ว และหนังตา Endotine มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ มีหนามเล็กๆ ช่วยยึดเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ทำให้ใบหน้ากระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
เทคนิค Endotine ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง
เทคนิค Endotine เป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในบริเวณส่วนบนของใบหน้า ซึ่งมักเป็นจุดที่แสดงอายุได้ชัดเจน ปัญหาที่ Endotine สามารถช่วยแก้ไขได้มีดังนี้
- แก้ปัญหาคิ้วตกและหนังตาตก Endotine ช่วยยกคิ้วและหนังตาให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้ดวงตาดูสดใส เปล่งประกาย ลดความรู้สึกเหนื่อยล้าบนใบหน้า และช่วยเพิ่มความกระฉับกระเฉงให้กับรูปลักษณ์โดยรวม
- ยกกระชับรอยย่นหน้าผาก ด้วยการยกผิวหนังบริเวณหน้าผาก Endotine ช่วยลดเลือนรอยย่นและริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ และสดใสมากขึ้น
- ลดขนาดหน้าผากให้แคบลง สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากกว้างหรือสูงเกินไป Endotine สามารถช่วยปรับสัดส่วนให้เหมาะสม โดยการดึงผิวหนังส่วนบนลงมา ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและสวยงามมากขึ้น
เทคนิค Endotine เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หนังตาตก
- ผู้ที่มีริ้วรอยบนหน้าผาก
- ผู้ที่ต้องการลดขนาดหน้าผากให้แคบลง
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความกระชับให้กับใบหน้าส่วนบน
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดแบบเปิดหน้าผากทั้งหมด
- ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
ข้อดีของการดึงหน้าด้วย Endotine
- แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวเร็ว
- ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัด
- ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- สามารถปรับแต่งความสูงของคิ้วได้ตามต้องการ
- ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย
- ความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำ
- วัสดุ Endotine สลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
ข้อจำกัดของการดึงหน้าด้วย Endotine
- อาจมีอาการบวมหรือรู้สึกไม่สบายในช่วงแรก
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังบางมาก
- ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและอายุของแต่ละบุคคล
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวิธีการยกกระชับแบบอื่น
ขั้นตอนการดึงหน้าด้วยเทคนิค Endotine
- การปรึกษาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้า พร้อมทั้งรับฟังความต้องการของคุณ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
- การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด แพทย์จะให้คำแนะนำในการงดยาและอาหารเสริมบางชนิด รวมถึงการเตรียมตัวอื่นๆ เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น
- การทำความสะอาดและวางยาสลบ เริ่มด้วยการทำความสะอาดบริเวณที่จะผ่าตัด จากนั้นจึงให้ยาสลบเฉพาะที่หรือการดมยาสลบ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
- การผ่าตัดใส่ Endotine แพทย์จะทำการผ่าตัดผ่านรอยแผลขนาดเล็ก แล้วสอดใส่ Endotine เข้าไปใต้ผิวหนัง จากนั้นจึงยกและกระชับผิวหนังให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
- การเย็บปิดแผล หลังจากใส่ Endotine เรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเย็บปิดแผลด้วยความประณีต เพื่อให้เกิดรอยแผลเป็นน้อยที่สุด
- การพักฟื้นหลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในห้องพักฟื้น ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน พร้อมคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนดึงหน้าด้วยเทคนิค Endotine กับ IDL Hospital
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- หยุดรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือวิตามินอีก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ยกเว้นได้รับคำแนะนำเป็นอย่างอื่นจากแพทย์
- งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ
- เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ติดกระดุมด้านหน้า เพื่อสะดวกในการสวมใส่หลังผ่าตัดโดยไม่ต้องดึงเสื้อผ่านศีรษะ
- จัดเตรียมผู้ดูแลที่จะพาคุณกลับบ้านหลังการผ่าตัด เนื่องจากคุณอาจยังมีอาการมึนงงจากยาสลบ
- ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดปราศจากเครื่องสำอางใดๆ ก่อนมาโรงพยาบาล เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ หรือการแพ้ยาใดๆ เพื่อการวางแผนการรักษาที่ปลอดภัยที่สุด
การดูแลตัวเองหลังดึงหน้าด้วยเทคนิค Endotine กับ IDL Hospital
- พักผ่อนให้เพียงพอในช่วงแรกหลังผ่าตัด โดยนอนศีรษะสูงประมาณ 30-45 องศา เพื่อลดอาการบวมและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- ประคบเย็นบริเวณที่ผ่าตัดในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวมและช้ำ โดยประคบครั้งละ 15-20 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและบรรเทาความไม่สบาย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ผ่าตัดโดยตรง และระมัดระวังในการทำความสะอาดใบหน้า ตามคำแนะนำของแพทย์
- งดออกกำลังกายหนักๆ และกิจกรรมที่ต้องก้มหน้าเป็นเวลานานอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ หรือจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
- สวมหมวกปีกกว้างและทาครีมกันแดด SPF 50+ เมื่อต้องออกแดด เพื่อป้องกันรอยแผลเป็นและการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางหลังผ่าตัด
- มาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามผลการรักษาและรับคำแนะนำในการดูแลตัวเองที่เหมาะสมในแต่ละช่วง
ทำศัลยกรรมดึงหน้าด้วยเทคนิค Endotine ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่
ศัลยกรรมดึงหน้าด้วยเทคนิค Endotine ที่ IDL Hospital มีราคาเริ่มต้นที่ 99,999 บาท ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดและทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง คุณจึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติจะช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าของคุณ สนใจรับคำปรึกษาเพิ่มเติมหรือจองคิวปรึกษาแพทย์ได้ที่ไลน์ @IDLHOSPITAL หรือโทร. 0994093666 เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์และมั่นใจยิ่งขึ้น
รีวิวลูกค้าที่ดึงหน้าด้วยเทคนิค Endotine
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ Endotine
ดึงหน้าด้วย Endotine อยู่ได้นานกี่ปี
ผลลัพธ์จากการดึงหน้าด้วย Endotine สามารถอยู่ได้นานประมาณ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล การรักษาสุขภาพผิวที่ดีและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพจะช่วยยืดอายุผลลัพธ์ให้นานขึ้น
ดึงหน้าด้วย Endotine กี่วันหาย
โดยทั่วไป อาการบวมและรอยช้ำจะลดลงภายใน 7-10 วัน แต่การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด โดยขึ้นอยู่กับลักษณะงานและคำแนะนำของแพทย์
ดึงหน้าด้วย Endotine มีแผลเป็นมั้ย
การดึงหน้าด้วย Endotine มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กและซ่อนอยู่ในบริเวณที่มองเห็นได้ยาก เช่น ในเส้นผม หรือรอยพับธรรมชาติของใบหน้า ทำให้แทบไม่เห็นแผลเป็น อย่างไรก็ตาม การดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์และการใช้ครีมบำรุงแผลเป็นจะช่วยให้รอยแผลจางลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดึงหน้าด้วย Endotine อันตรายมั้ย
วัสดุ Endotine ทำจาก Bio-Plastic มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตราย ผ่านการรับรองจาก USFDA การผ่าตัดดำเนินการโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้มีความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด